เหตุการณ์ไฟไหม้เป็นสถานการณ์ฉุกเฉินที่สามารถเกิดขึ้นได้ในทุกที่ การอพยพและช่วยเหลือผู้ประสบเหตุไฟไหม้จึงเป็นทักษะที่ทุกคนควรเตรียมพร้อม เมื่อเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ การตอบสนองที่รวดเร็วและมีประสิทธิภาพสามารถช่วยลดความเสี่ยงจากอันตรายต่าง ๆ เช่น การสูดดมควันและการถูกไฟไหม้ ซึ่งจะเป็นการช่วยให้ผู้คนสามารถออกจากพื้นที่อันตรายได้อย่างปลอดภัย
ความสำคัญของการอพยพผู้ประสบเหตุไฟไหม้
การอพยพหนีไฟ (Fire Evacuation) คือ กระบวนการที่ผู้คนในพื้นที่ที่เกิดเหตุไฟไหม้ต้องเคลื่อนย้ายออกจากบริเวณที่มีอันตราย เพื่อหลีกเลี่ยงการได้รับบาดเจ็บจากเปลวไฟ ควันพิษ หรืออันตรายอื่น ๆ ที่เกิดจากไฟไหม้
การอพยพหนีไฟต้องดำเนินการอย่างรวดเร็วและมีระเบียบ โดยใช้เส้นทางที่ปลอดภัยและมีการช่วยเหลือผู้ที่ไม่สามารถเคลื่อนย้ายได้ เช่น ผู้บาดเจ็บ ผู้สูงอายุ หรือเด็ก เพื่อให้ทุกคนสามารถออกจากสถานที่เกิดเหตุได้อย่างปลอดภัย
การอพยพผู้คนในเหตุการณ์ไฟไหม้ เป็นขั้นตอนสำคัญที่ช่วยลดความเสี่ยงต่อการบาดเจ็บ หรือเสียชีวิตจากเปลวไฟและควันพิษ หากไม่มีการอพยพที่มีระเบียบและเป็นระบบ อาจทำให้เกิดความสับสนและผู้คนติดอยู่ในพื้นที่อันตราย การอพยพที่มีประสิทธิภาพจึงเป็นสิ่งที่จำเป็นในการลดอันตรายให้เหลือน้อยที่สุด
วิธีการประเมินสถานการณ์ ก่อนการอพยพหนีไฟ
การอพยพหนีไฟ จะเริ่มต้นจากการประเมินสถานการณ์และการตัดสินใจที่มีประสิทธิภาพ ซึ่งประกอบไปด้วยขั้นตอนต่าง ๆ ดังนี้:
- ประเมินความเสี่ยง: ก่อนที่จะตัดสินใจอพยพ ผู้รับผิดชอบต้องประเมินว่าพื้นที่ไหนของอาคารหรือสถานที่ที่เกิดเหตุมีความเสี่ยงสูงสุด ควรหลีกเลี่ยงเส้นทางที่มีเปลวไฟหรือควันหนาแน่น
- เลือกเส้นทางอพยพ: การเลือกเส้นทางการอพยพเป็นสิ่งสำคัญ ต้องเลือกเส้นทางที่ปลอดภัย และสามารถเข้าถึงได้โดยไม่ถูกกีดขวางจากอุปสรรคต่าง ๆ เช่น ประตู หรือหน้าต่างที่อาจถูกไฟไหม้
- ตั้งจุดรวมตัว: จุดรวมตัวหรือจุดปลอดภัยที่อยู่ห่างจากอาคารที่เกิดเหตุ ควรมีการกำหนดล่วงหน้าและชัดเจน เพื่อให้ทุกคนสามารถมารวมตัวกัน และหลีกเลี่ยงการสูญหายจากกัน
วิธีการอพยพ ในกรณีที่ผู้ประสบเหตุไม่สามารถเคลื่อนย้ายได้
ในบางกรณี ผู้ที่ประสบเหตุไฟไหม้อาจจะไม่สามารถเคลื่อนย้ายได้ด้วยตนเอง เช่น ผู้สูงอายุ เด็ก หรือผู้ที่ได้รับบาดเจ็บจากไฟไหม้ ดังนั้น การเตรียมการในการช่วยเหลือผู้ที่ไม่สามารถเคลื่อนย้ายได้จึงเป็นสิ่งสำคัญ การช่วยเหลือสามารถทำได้โดย:
- การใช้เก้าอี้ล้อเลื่อน: ในกรณีที่ผู้ประสบเหตุสามารถนั่งได้ ควรใช้เก้าอี้ล้อเลื่อนหรืออุปกรณ์ที่สามารถเคลื่อนย้ายได้อย่างง่ายดาย
- การยกผู้ประสบเหตุ: หากไม่สามารถใช้เก้าอี้ล้อเลื่อนได้ ต้องมีการยกผู้ประสบเหตุออกจากพื้นที่โดยใช้ท่าทางที่ถูกต้อง เช่น การยกผู้ที่บาดเจ็บด้วยวิธีที่ไม่ทำให้กระดูกหักหรือบาดเจ็บเพิ่ม
- การใช้สายรัดหรือเชือก: หากจำเป็นสามารถใช้สายรัดหรือเชือกในการช่วยยกผู้บาดเจ็บออกจากสถานที่อันตราย
วิธีการจัดการกับควันและเปลวไฟ ในระหว่างการอพยพ
ควันจากไฟไหม้เป็นอันตรายที่ร้ายแรง โดยอาจทำให้เกิดอาการหายใจไม่ออก สูญเสียการมองเห็น และอาจนำไปสู่การเสียชีวิตได้ ดังนั้นการจัดการกับควันจึงเป็นสิ่งสำคัญในกระบวนการอพยพ:
- การหายใจผ่านผ้าชื้น: หากพบว่าควันหนาทึบ ผู้ที่อพยพควรหาผ้าชื้นมาปิดจมูกและปากเพื่อช่วยกรองควันและลดอันตรายจากการหายใจ
- การเคลื่อนที่ต่ำ: การเคลื่อนที่ในพื้นที่ที่มีควันควรเดินต่ำหรือนั่งคลาน เพื่อหลีกเลี่ยงการสูดดมควันที่มักจะลอยขึ้นสูง
- การหลีกเลี่ยงพื้นที่ที่มีเปลวไฟ: ควรหลีกเลี่ยงการเดินทางผ่านพื้นที่ที่มีไฟลุกไหม้ และเลือกเส้นทางที่ควันไม่หนาทึบ
อ่านเพิ่มเติม : การปฏิบัติเมื่อเกิดเหตุไฟไหม้
วิธีการช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ ในขณะเกิดเหตุไฟไหม้
การช่วยเหลือผู้บาดเจ็บจากไฟไหม้จำเป็นต้องใช้ความระมัดระวัง เนื่องจากผู้บาดเจ็บอาจได้รับบาดแผลจากไฟ หรือจากการล้มระหว่างการอพยพ การดูแลเบื้องต้นที่ควรปฏิบัติ ได้แก่:
- ปฐมพยาบาลเบื้องต้น: สำหรับผู้ที่ได้รับบาดแผลจากไฟไหม้ ควรให้การช่วยเหลือเบื้องต้นโดยการดับไฟจากเสื้อผ้าหรือสัมผัสที่ถูกไฟ โดยการใช้ผ้าเปียกหรือเครื่องมือดับเพลิง
- ประเมินอาการ: หากพบผู้บาดเจ็บควรประเมินอาการอย่างรวดเร็ว เช่น ดูว่าผู้บาดเจ็บยังหายใจหรือไม่ หรือมีอาการหมดสติหรือไม่
- ขอความช่วยเหลือ: เมื่อผู้บาดเจ็บได้รับการช่วยเหลือเบื้องต้นแล้ว ควรขอความช่วยเหลือจากหน่วยกู้ภัย หรือแพทย์โดยทันที เพื่อการรักษาที่เหมาะสม
ฝึกอบรมและเตรียมความพร้อม สำหรับการอพยพหนีไฟ
การเตรียมความพร้อมในกรณีเกิดเหตุไฟไหม้เป็นสิ่งที่ทุกคนในองค์กร และทุกคนควรให้ความสำคัญ การฝึกอบรมการอพยพที่เหมาะสม ช่วยให้ทุกคนสามารถทำตาม ขั้นตอนการอพยพได้อย่างมีประสิทธิภาพ:
- การฝึกซ้อมการอพยพหนีไฟ : การฝึกซ้อมอพยพควรทำเป็นประจำอย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง (เป็นข้อกำหนดทางกฎหมาย) โดยเฉพาะในองค์กรที่มีการทำงานร่วมกันจำนวนมาก การฝึกซ้อมจะช่วยให้ทุกคนมีความคุ้นเคยกับเส้นทางอพยพและจุดรวมตัว หรือหากทางสถานที่ หรือองค์กรมีการปรับเปลี่ยนแผนอพยพควร มีการซ้อมก่อนนำมาใช้งานจริง
- การตรวจสอบอุปกรณ์การอพยพ: อุปกรณ์ช่วยเหลือ ป้ายทางหนีไฟ ระบบแจ้งเหตุเพลิงไหม้ และระบบดับเพลิง ควรได้รับการตรวจสอบและบำรุงรักษาอย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้สามารถใช้งานได้ทันทีเมื่อเกิดเหตุการณ์ไฟไหม้
แนะนำศูนย์ฝึกอบรมดับเพลิงขั้นต้น ที่พร้อมให้บริการทั้งการจัดสอนอบรมดับเพลิง และฝึกซ้อมอพยพ สามารถเลือกแพ็คเกจ ที่สนใจได้ พร้อมจัดอบรมถึงสถานที่ 77 จังหวัด สามารถจัดอบรมได้ทั้ง โรงงาน โรงเรียน ห้างสรรพสินค้า และอื่นๆ
- รายละเอียดคอร์ส : หลักสูตรอพยพหนีไฟ
ติดตามและประเมินผลหลังการอพยพ
หลังจากการอพยพเสร็จสิ้น สิ่งที่สำคัญ คือ การติดตามสถานการณ์ นับจำนวนผู้อพยพ ออกมากันครบหรือไม่ และประเมินผลว่าได้ดำเนินการอย่างถูกต้องหรือไม่:
- ทำการตรวจสอบรายชื่อผู้ที่ได้รับการอพยพ: การตรวจสอบรายชื่อเป็นสิ่งที่สำคัญ เพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีผู้ใดถูกทิ้งไว้ในพื้นที่อันตราย
- ประเมินการตอบสนอง: หลังจากสถานการณ์สงบ ต่อไปคือการประเมินผลการตอบสนองในเหตุการณ์ไฟไหม้ เพื่อหาจุดที่สามารถปรับปรุงและพัฒนาให้ดีขึ้นในครั้งถัดไป นอกจากนี้ต้องทำการวิเคราะหฺหาสาเหตุของการเกิดเพลิงไหม้อีกด้วย
สรุป
การอพยพและช่วยเหลือผู้ประสบเหตุไฟไหม้เป็นกระบวนการที่สำคัญในการรักษาความปลอดภัยในสถานการณ์ฉุกเฉิน การประเมินสถานการณ์และเลือกเส้นทางอพยพที่ปลอดภัย รวมถึงการช่วยเหลือผู้ที่ไม่สามารถเคลื่อนย้ายได้ เช่น ผู้บาดเจ็บหรือผู้สูงอายุ เป็นสิ่งจำเป็น เพื่อให้ทุกคนสามารถออกจากพื้นที่อันตรายได้อย่างปลอดภัย นอกจากนี้การจัดการกับควันและการปฐมพยาบาลผู้บาดเจ็บจากไฟไหม้ ก็เป็นขั้นตอนสำคัญที่ต้องดำเนินการอย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ การฝึกอบรมและการเตรียมความพร้อมอย่างสม่ำเสมอ จะช่วยให้ทุกคนสามารถตอบสนองได้ทันที เมื่อเกิดเหตุการณ์ไฟไหม้
บทความที่น่าสนใจ
- ประเภทของไฟตามมาตรฐาน NFPA 10
- มาตรฐาน NFPA สำหรับความปลอดภัยและการป้องกันอัคคีภัย
- เลือกศูนย์ฝึกอบรมดับเพลิง ควรเช็คอะไรบ้าง
- เทคนิคตรวจเช็คถังดับเพลิง ด้วยตัวเองภายใน 5 นาที